วันพฤหัสบดีที่ 13 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557

บันทึกอนุทินครั้งที่ 14



บันทึกอนุทิน
วิชา การจัดประสบการณ์วิทยาศาสตร์สำหรับเด็กปฐมวัย (EAED3207)
อาจารย์ผู้สอน  อาจารย์จินตนา  สุขสำราญ
วันที่ 13 พฤศจิกายน 2557  ครั้งที่ 14
เวลาเรียน 08.30-12.20 น.


เวลาเข้าสอน08.30น.  เวลาเข้าเรียน 08.30น.  เวลาเลิกเรียน 12.20น.



ความรู้ที่ได้รับ
          จากงานวิจัยเรื่องที่ 1 การส่งเริมทักษะการสังเกตโดยใช้กิจกรรมเกมการศึกษา เพราะเด็กปฐมวัยยังขาดทักษะการสังเกต เลยใช้วิจัยในการแก้ปัญหา การสังเกตเป็นเครื่องมือในการเรียนรู้
วิจัยเรื่องที่ 2 ทักษะพื้นฐานทางวิทยาศาสตร์สำหรับเด็กปฐมวัยหลังการเล่านิทานต้องการส่งเสริมการเล่านิทาน เป็นความสำคัญในการส่งเสริมการฟังนิทาน สื่อสารด้วยการใช้การสนทนา เครื่องมือที่ใช้ก็จะมี แผน แบบทดสอบ เป็นการส่งเสริมทุกด้านของเด็ก
วิจัยเรื่องที่ 3 การศึกษาผลของรูปแบบการเรียนรู้แบบนักวิจัยที่มีต่อกระบวนการวิทยาศาสตร์ รูปแบบจะยึดผู้เรียนเป็นสำคัญ โดย1.ให้อิสระแก่เด็ก 2.พาเด็กไปศึกษาให้เด็กเจอประสบการณ์ตรง 3.ประเมินผลงานของเด็ก
วิจัยเรื่องที่ 4 ผลของการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ เรื่องสีจากธรรมชาติที่มีผลต่อทักษะพื้นฐานทางวิทยาศาสตร์ โดยใช้กิจกรรม 1. สีจากธรรมชาติ  2. ทักษะพื้นฐานทางวิทยาศาสตร์ 3. เด็กปฐมวัย
วิจัยเรื่องที่ 5 ทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ของเด็กปฐมวัยที่ได้รับการจัดกิจกรรมศิลปะสร้างสรรค์แบบมุ่งเน้นกระบวนการ โดยให้เด็กปฎิบัติเองด้วยการใช้ประสาทสัมผัสทั้ง 5
วิจัยเรื่องที่  6 การคิดวิจารณญาณของเด็กปฐมวัยที่ได้รับจากกิจกรรม  ส่งเสริมการคิดแก้ปัญหาในเด็กปฐมวัย  โดยเด็กเล็กๆ ควรส่งเสริมให้เด็กมีทักษะในการคิดที่สามารถพัฒนาและส่งเสริม การรู้จักการแก้ปัญหาซึ่งจะต้องเริ่มกันตั้งแต่แรก ผู้ใหญ่จะต้องเข้าใจถึงพัฒนาการทางสติปัญญาของเด็ก การคิดของเด็กเล็กต้องอาศัยการรับรู้เป็นส่วนใหญ่  และการเรียนรู้จากสภาพแวดล้อมรอบตัวเด็ก 
 วิจัยเรื่องที่ 7 การคิดอย่างมีเหตุผลของเด็กปฐมวัยที่ได้รับการจัดกิจกรรมศิลปะสร้างสรรค์โดยกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ สิ่งที่ควรคำนึงในการที่จะทำให้การแก้ปัญหา คือการเรียนรู้ในการแก้ปัญหา การคิดที่เป็นเหตุเป็นผล  และระดับความสามารถทางเชาวน์ปัญญา

การนำไปประยุกต์ใช้
          ครูควรจัดบรรยากาศหรือสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการพัฒนาความสามารถในการแก้ปัญหาไม่ให้เด็กเกิดความเครียด สร้างสิ่งแวดล้อมให้มีความรู้สึกที่ดีต่อการเรียนรู้ เด็กแต่ละคนมีความแตกต่างกัน ไม่มีการเปรียบเทียบกันในการเรียนรู้  ทั้งหมดเป็นพื้นฐานในการพัฒนาทักษะการแก้ปัญหาในปฐมวัย การให้ความรักและความอบอุ่น ก็เป็นการสร้างความเชื่อมั่นให้กับเด็ก เด็กจะรู้ปลอดภัยเมื่อผู้ใหญ่ให้ความรักและความอบอุ่น ให้เด็กเป็นคนช่างสังเกต ให้เด็กได้ใช้ประสาทสัมผัสทั้ง5 โดยผู้ใหญ่หรือครูและผู้ปกครองจะต้องเป็นผู้ดูแลจัดสิ่งเหล่านั้น เด็กก็จะเป็นคนช่างสังเกตและไวต่อสถานการณ์ที่พบ ให้เด็กได้ตอบคำถามจากการซักถามของครู คือต้องใช้คำถามลักษณะต่างๆกับเด็กในสถานการณ์ที่มีการเปลี่ยนแปลง  เพื่อให้เด็กได้แสดงออกและฝึกการคิด ให้เด็กได้แสดงความคิดเห็น เปิดโอกาสให้เด็กได้เสนอความคิดเห็นและตัดสินใจ ไม่ว่าการเล่นหรือการเรียนรู้ ให้เด็กได้รู้จักและสามารถพึ่งพาตนเอง ซึ่งการส่งเสริมให้เด็กช่วยตนเอง จะทำให้เด็กทำงานหรือทำกิจกรรมด้วยความมั่นใจ เป็นพื้นฐานสำคัญของการที่จะทำให้เด็กมีทักษะในการแก้ปัญหา  ควรส่งเสริมให้เด็กมีความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ เพราะคิดริเริ่มสร้างสรรค์มีความสัมพันธ์กับการแก้ปัญหา ให้เด็กได้ใช้การอธิบาย การให้เหตุผล โดยไม่ใช่วิธีการบังคับ ในการสังเกตพฤติกรรมของเด็กควรสังเกตจากการเล่นในกิจกรรมประจำวันทุกกิจกรรมจึงจะสามารถมองเห็นพัฒนาการเด็กได้แน่นอน ในกระบวนการสังเกตพฤติกรรมนั้น ครูหรือผู้ปกครองก็ตามที่เป็นผู้สังเกต ไม่ควรที่จะสังเกตหลายๆ พฤติกรรมในเวลาเดียวกัน นอกจากว่าจะมีประสบการณ์ในการสังเกตเป็นอย่างดีแล้ว เพราะว่าจะทำให้เกิดความสับสนได้ อันเป็นเหตุให้ได้ข้อมูลที่ไม่ตรงกับความเป็นจริงและแบบสังเกตพฤติกรรมอาจเลือกใช้ได้หลายรูปแบบ ขึ้นอยู่กับทักษะของผู้ใช้และบริบทของสถานการณ์ที่เกิดขึ้นอีกด้วย


การประเมินการเรียนการสอน
     ตนเอง  วันนี้เข้าเรียนตรงเวลา วางรองเท้าเป็นระเบียบ แต่งกายเรียบร้อย ตั้งใจฟังเพื่อนนำเสนองานวิจัย และตั้งใจฟังอาจารย์สอนและที่อาจารย์อธิบายรายละเอียดต่างๆ มีการแสดงความคิดเห็นร่วมกับอาจารย์
     เพื่อน วันนี้เพื่อนๆเข้าเรียนตรงเวลา วางรองเท้าเป็นระเบียบ แต่งกายเรียบร้ออย มีการนำเสนอที่ดีพอควร ตั้งใจฟังอาจารย์และแสดงความคิดเห็นต่างๆภายในชั้นเรียน
     อาจารย์ วันนี้อาจารย์มาสอนตรงเวลา มีการให้ผู้เรียนได้แสดงความคิดเห็นในเนื้อหาวิจัยที่เพื่อนนำมาเสนอ ซึ่งเป็นการฝึกให้นักศึกษากล้าที่จะแสดงความคิดเห็นและกล้าคิด


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น